ฮิต: 1322
-
-
ข่าวประชาสัมพันธ์ สำนักงานประสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
โทรศัพท์/โทรสาร 038-279448 www.thailandchonburi.com
ระหว่างวันที่ 1 – 15 มกราคม 2559
ชลบุรี ได้สรุปผลการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดชลบุรี ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ได้ตั้งจุดตรวจจำนวน 27 จุด พร้อมจุดบริการประชาชน 58 จุดในพื้นที่ 11 อำเภอ พร้อมกันนี้ได้มีอาชีวะอาสา ร่วมตรวจเช็คซ่อมแซมรถยนต์เพื่อความปลอดภัยอีก 4 จุด โดยมีผู้ปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 1,032 คน เพื่อเป็นการดูแลอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา
สำหรับจังหวัดชลบุรี ได้เกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งสิ้น 28 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต จำนวนทั้งสิ้น 13 ราย แยกเป็นชาย 11 ราย หญิง 2 ราย ผู้รับบาดเจ็บ จำนวน 18 ราย เป็นชาย 13 ราย เป็นหญิง 5 ราย มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในพื้นที่อำเภอบางละมุง คือ 4 ราย รองลงมาเป็นอำเภอศรีราชา และอำเภอบ้านบึง จำนวน 3 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากการขับขี่รถเร็ว เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย
ในส่วนของการเรียกตรวจยานพาหนะ ตามมาตรการคุมเข้ม 10 มาตรการ รวม 7 วัน เรียกตรวจทั้งสิ้น 86,923 คัน ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ รวม 44,727 ราย ความผิดฐาน ไม่สวมหมวกนิรภัย 10,904 ราย มอเตอร์ไซต์ไม่ปลอดภัย 4,267 ราย เมาสุรา1,004 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 4,866 ราย ไม่มีใบขับขี่ 10,853 ราย ใช้ความเร็วเกินกำหนด 3,220 ราย ฝ่าฝืนสัญญานไฟ 3,497 ราย ขับรถย้อนศร 2,334 ราย แซงในที่คับขัน 1,944 ราย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 1,858 ราย รวมทั้งดำเนินการยึดรถ ผู้ขับขี่ที่เมาสุรา ตามมาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ ของ คสช. รวม 496 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 390 คัน รถยนต์ส่วนบุคคล 99 คัน รถยนต์รับจ้าง 2 คัน รถจักรยานยนต์รับจ้าง 4 คัน และรถบรรทุก6ขึ้นไป 1 คัน
ทั้งนี้จังหวัดชลบุรี โดยศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.จังหวัดชลบุรี) จะยังคงใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและให้จุดตรวจคงความเข้มงวดในกวดขันให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎ จราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 เรื่องเห็นชอบให้ปี 2554 – 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปอลดภัยทางถนน ต่อไป
ปริญญา/ข่าว
***********************
จังหวัดชลบุรี โครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดชลบุรี ได้จัดทำแผนปฏิบัติจิงานและกำหนดออกหน่วยให้บริการประชาชนตามโครงการหน่วย บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน จังหวัดชลบุรี เป็นประจำทุกวันพุธที่ 3 ของเดือน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ห่างไกล ได้รับบริการจากหน่วยราชการ สำหรับในเดือนมีนาคมนี้ ได้กำหนดออกหน่วยที่ ในวันพุธที่ 20 มกราคม 2559 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 12.00 น. ที่วัดช่องแสมสาร หมู่ที่2 ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทน แนะนำตัวและกล่าวการให้บริการของหน่วยงานตนเอง คนละประมาณ 2 นาที นายอำเภอกล่าวต้อนรับ และแนะนำหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมกล่าวรายงาน จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวปราศรัยและพบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ และมอบทุนการศึกษาให้นักเรียน 20 ทุนๆละ 1,000 บาท มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวยากจน 10 ทุนๆละ 1,000 บาท มอบอุปกรณ์การศึกษาและเครื่องใช้ให้นักเรียน 10 ทุนๆละ 1,000 บาท โดยกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และนายกเหล่ากาชาดพร้อมคณะกรรมการกาชาด มอบจักรยาน จำนวน 15 คัน และมอบถุงยังชีพ จำนวน 400 ถุง
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้นำหัวหน้าส่วนราชการในระดับจังหวัด และในระดับพื้นที่ ได้แก่นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำหมู่บ้านและชุมชน ร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ต่อไป
ปริญญา/ข่าว
****************************
ชลบุรี ขยายการดำเนินการของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) จังหวัดชลบุรี
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 เห็นชอบแนวทางการจัดระบบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาวและกัมพูชา ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้เปิดจดทะเบียนแรงงาต่างต่างด้าวสัญชาติเมียมา ลาว และกัมพูชา ในกิจการประมงทะเลในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเล (ปีละ 2 ครั้ง) และแรงงานจะได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 1 ปี ในการนี้ จังหวัดชลบุรี ได้จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ขึ้น ณ ศาลาประชาคมแหลมฉบัง เทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยกำหนดเวลาเปิดให้บริการในระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 30 มกราคม 2559 เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. นั้น
เนื่องจากคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 เห็นชอบการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU Fishing) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้เปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชาที่ทำงานกับนายจ้างในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรอายุไม่เกิน 15 ปี โดยให้นายจ้างนำแรงงาต่างด้าวดังกล่าวไปรายงานตัว ณ ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงาต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว ตรวจสุขภาพ และขออนุญาตทำงาน โดยจะได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรและอนุญาตให้ทำงานเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป
จังหวัดชลบุรี ได้ขยายการดำเนินการของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) จังหวัดชลบุรี โดยให้เปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเฉพาะกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ ในระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 รวมเวลา 90 วัน
ปริญญา/ข่าว
*******************
ชลบุรี เตรียมจัดงานพฤกษาตะวันออก ครั้งที่ 10
นายสามารถ ชื่นวงศา เกษตรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า การจัดงานพฤกษาตะวันออกครั้งที่ 10 เป็นความร่วมมือร่วมใจของจังหวัดชลบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และสมาคมไม้ดอกไม้ประดับฯ
จัดงานพฤกษาตะวันออกในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 10 มี ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่24 – 31 มกราคม 2559 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่องกลางทางด้านวิชาการและธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับให้เกษตรกร เพื่อเป็นเวทีกลางให้เกษตรกรผู้ผลิต หรือผู้ปรับปรุงพันธุ์ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เพื่อส่งเสริมการผลิตและขยายตลาดไม้ดอกไม้ประดับให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ให้นักเรียน นักศึกษา ที่สนใจอาชีพการเกษตร เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีและจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก และเพื่อก่อให้เกิดการรักษ์ธรรมชาติ ทำให้พันธุ์พืชดำรงอยู่ต่อไป
ส่วนกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการสัมมนาวิชาการ ดำเนินการโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดชลบุรี ได้แก่ ศิลปะการพับใบเตย การพับเหรียญริบบิ้น การจัดดอกบัวในภาชนะ การขยายพันธ์พืช การเพาะต้นอ่อนทานตะวัน และการจัดดอกไม้ในภาชนะ
นอกจากนี้ภายในงานได้จัดการประกวดไม้ดอกไม้ประดับ ได้แก่ การประกวดแคคตัส การประกวดสวนถาดโต๊ะ ประชาชน การประกวดกล้วยไม้ 10 ชนิด 90 ชุด การประกวดโป๊ยเซียน ชิงแชมป์ ชิงแชมป์ประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงาน ได้จัดสินค้า OTOP การจำหน่ายสินค้าไม้ดอกไม้ประดับ พืชสวนอื่นๆ และวัสดุอุปกรณ์ด้านการเกษตรอีกด้วย
ปริญญา/ข่าว
*************************
ประกาศผลการตัดสินผลงานโครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งปวดล้อม กรทะรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินโครงการหระกวดสร้างสรรค์สิงประดิษฐ์วัสดุเหลือใช้ ปี 2558 โดยมีนักเรียนและประชาชนจากทั่วประเทศ ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวด นั้น
ผลการตัดสินการประกวดโครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ปี พ.ศ.2558 ระดับประเทศ เพื่อตัดสินผลงานสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ที่ผ่านการคัดเลือกจากการประกวดระดับจังหวัด ให้เข้ารับรางวัลในระดับประเทศ โดยมีผลงานจากทีมผู้เข้าแข่งขันในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ดังนี้ โรงเรียนโพธิสัมพันธ์พิทยาคาร ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ชื่อผลงาน Big Bike Jackets ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ประเภท เครื่องแต่งกายจากวัสดุเหลือใช้ และนางสาวนันท์นภา ปานันท์ และเด็กชายนันท์ภัส ปานันท์ เลขที่ 4/5 ถนนสุขุมวิท ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ชื่อผลงาน ถังขยะบินเฮียร์ Big here ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองระดับประเทศ ประเภทสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้มาพัฒนาสร้างสรรค์เป็นถังขยะ
ปริญญา/ข่าว
***********************
ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
นายพรเทพ ผ่องศรี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากระทรวงมหาดไทยว่า หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ฯ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เปิดรับสมัครทหารกองหนุนจากทุกเหล่าทัพ และบุคคลพลเรือน (ชาย) อายุตั้งแต่ 20 – 28 ปี เข้ารับราชการเป็นทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ฯ (พลอาสาสมัคร) โดยกำหนดสมัครด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 4 มกราคม ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ที่โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ฯ วังทวีวัฒนา ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 – 4569452 และ 02 – 3560893
ปริญญา/ข่าว
********************
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย สัมมนาเชิงปฏิบัติการ ประจำปี 2559
นางสาวฐิติรัตน์ ศรีธีระวิโรจน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดโครงการส่งเสริมและสนับสนุนความปรองดองสมานฉันท์และการมีส่วนร่วมของเยาวชนเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ได้จัดกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย สัมมนาเชิงปฏิบัติ ประจำปี 2559 สำหรับเยาวชน ชาย-หญิง ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ สายอาชีพ และอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า ที่มีอายุระหว่าง 15 – 20 ปี จำนวน 2 รุ่น ๆละ 160 คน ระยะเวลา รุ่นละ 10 วัน โดยรุ่นที่ 1 เข้าอบรมระหว่างวันที่ 22 – 31 มีนาคม 2559 และรุ่นที่ 2 เข้าอบรมระหว่างวันที่ 19 – 28 เมษายน 2559 ณ สถาบันวิชาการทีโอที เลขที่ 174 ซอยงามวงศ์วาน 17 ถนนงามวงศ์วาน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนได้รับองค์ความรู้เชิงบูรณาการ มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ เป็นเครือข่ายของรัฐสภาในการพัฒนาประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง และเพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ในสังคมต่อไป
สำหรับกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย สัมมนาเชิงปฏิบัติ ประจำปี 2559 ในครั้งนี้ได้เปิดรับสมัครในรุ่นที่1 และรุ่นที่2 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 ในต่างจังหวัดให้สมัครได้ที่ สำนักงานจังหวัด ในเขตพื้นที่ๆ สถาบันการศึกษานั้นๆ ตั้งอยู่ ส่วนในกรุงเทพมหานคร ส่งใบสมัครได้ที่ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาผู้แทนราษฎร ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ 02 – 2442515 – 16 ,22 โทรสาร 02 - 2442517
เยาวชนที่สนใจสามารถสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตยฯ โทรศัพท์ 02 – 2442515 – 6 โทรสาร 02 - 2442517
ปริญญา/ข่าว
********************
GISTDA เปิดกล่องของขวัญปีใหม่ ชวนคนไทยตะลุยพิพิธภัณฑ์อวกาศ
GISTDA สนองนโยบายรัฐบาลจัดของขวัญชุดใหญ่ต้อนรับปีใหม่ เปิดประตูอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศให้คนไทยเข้าชมพิพิธภัณฑ์อวกาศแห่งแรกและแห่งเดียวของไทยฟรี 3 เดือน
ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า GISTDA เล็งเห็นความสำคัญของการปลูกฝังจินตนาการทางด้านอวกาศให้เกิดขึ้น เพื่อให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาร่วมเรียนรู้ เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ประกอบกับหลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมานานแล้ว ดังนั้น ถึงเวลาของประเทศไทยที่จะต้องส่งเสริมและผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง การที่ประเทศไทยมีพิพิธภัณฑ์อวกาศ หรือ Space Inspirium ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความตระหนักให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศของประเทศ และผมเชื่อมั่นว่าในอนาคตข้างหน้าประเทศของเราจะมีนักบินอวกาศไทยคนแรกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Space Inspirium ที่ GISTDA ก็เป็นได้
ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ อธิการสถาบันวิทยาการอวกาศและภูมิสารสนเทศ GISTDA เปิดเผยว่า พิพิธภัณฑ์อวกาศ หรือ Space Inspirium นั้น ถือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยโซนต่างๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นประโยชน์อย่างมาก อาทิ จุดกำเนิดเอกภพ ที่จะอธิบายถึงความเป็นมา ขนาดและอายุของเอกภพ รวมไปถึงพลังงานต่างๆ จากนั้นจะเชื่อมโยงไปยังโซนที่เรียกว่าทำไมโลกจึงมีสิ่งมีชีวิต เพื่อตอบความแคลงใจที่หลายคนสงสัย และพลาดไม่ได้กับวิวัฒนาการของเทคโนโลยีสำรวจโลกและอวกาศที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ จุดที่สามารถสร้างความสนใจได้คงหนีไม่พ้นเครื่องเล่นไจโรสโคป เครื่องเล่นจำลองสภาวะไร้นำหนักที่จะมอบประสบการณ์และความรู้สึกของนักบินอวกาศที่อยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง โดยอาศัยแรงเฉื่อยของล้อหมุน เพื่อช่วยรักษาระดับทิศทางของแกนหมุน ประกอบด้วยล้อหมุนเร็วบรรจุอยู่ในกรอบอีกทีหนึ่ง ทำให้เอียงในทิศทางต่างๆ ได้โดยอิสระ ซึ่งผู้ชมสามารถทดลองเล่นได้ รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมสู่อวกาศซึ่งจะได้เรียนรู้ว่าการเป็นนักบินอวกาศหรือมนุษย์อวกาศนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และเราต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายด้านใดบ้าง อีกทั้งยังมี โรงภาพยนตร์ 3 มิติ ที่สามารถรองรับได้ 50 คน ซึ่งเป็นอีกโซนหนึ่งที่จะนำเสนอเรื่องราวของการสร้างแรงบันดาลใจในการเป็นนักบินอวกาศได้เป็นอย่างดี เพราะเนื้อหาที่นำเสนอนั้นจะถูกถ่ายทอดผ่านตัวแสดงที่เป็นพ่อกับลูก นับว่าเป็นภาพยนตร์ 3 มิติที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งโซนต่างๆที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของความอัศจรรย์ที่ GISTDA มอบให้แก่ผู้มาเยือน
สำหรับพิพิธภัณฑ์อวกาศ หรือ Space Inspirium นั้น ถูกออกแบบเพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงโลกของอวกาศและภูมิสารสนเทศอย่างครบวงจร ซึ่งสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในรูปแบบของ interactive ได้หลายส่วน โดย GISTDA ได้เปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนทั่วไป เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม – 9 เมษายน 2559 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์อวกาศ Space Inspirium ภายในพื้นที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ GISTDA อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ปริญญา/ข่าว
*******************
พาณิชย์จังหวัดชลบุรี จัดแนวทางการบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลัง ปี 2558/59
นายวิฑูร สุขพูล พาณิชย์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2558 เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลัง ปี 2558/59 โดยใช้เงินกู้จาก ธ.ก.ส. ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเสนอจำนวน 3 โครงการ วงเงิน 10,850 ล้านบาท และวงเงินชดเชยดอกเบี้ยรวม 374.35 ล้านบาท
สำหรับ โครงการแรกเป็นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด ปี 2558/59 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต เป้าหมายเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกมันสำปะหลัง 20,000 ราย กู้เงินจาก ธ.ก.ส. กำหนดชำระคืนไม่เกิน 5 ปี วงเงินสินเชื่อจำนวน 4,600 ล้านบาท วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 276 ล้านบาท ส่วนโครงการที่สอง เป็นโครงการชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ปี 2558/59 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนใช้จ่ายในครัวเรือนในช่วงชะลอขุดหัวมันสำปะหลังและลดปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด เป้าหมายเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกมันสำปะหลัง 100,000 ราย กู้เงินจาก ธ.ก.ส. วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท รัฐชดเชยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน กำหนดชำระคืนไม่เกิน 6 เดือน วงเงินสินเชื่อจำนวน 5,000 ล้านบาท วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 76.50 ล้านบาท โดยให้เป็นเงินกู้เพิ่มเติมแยกจากวงเงินก็เดิมที่เกษตรกรมีอยู่กับ ธ.ก.ส. และโครงการที่สาม เป็นโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อรวบรวมและสร้างมูลค่าเพื่อมันสำปะหลัง ปี 2558/59 เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มสภาพคล่องให้กับสหกรณ์การเกษตร สถาบันเกษตร ในการรวบรวมรับซื้อหัวมันสดและแปรรูป เป้าหมายสหกรณ์ภาคการเกษตร กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ มันสำปะหลังที่เข้าร่วมโครงการกู้เงินจาก ธ.ก.ส. เพื่อรวบรวมหรือรับซื้อมันสำปะหลังสดจากสมาชิกหรือเกษตรกรปริมาณ 500,000 ตัน เพื่อจำหน่ายหรือนำมาแปรรูป และรัฐชดเชยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาชดเชย 6 เดือน วงเงินสินเชื่อจำนวน 1,250 ล้านบาท วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 18.75 ล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการผลิตจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติแนวทางการบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลัง ปี 2558/59 ต่อไป
ปริญญา/ข่าว
***************
การประกวดนวัตกรรมประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยเชิงคุณภาพ
ขอเชิญผู้สนใจร่วมส่งผลงานประกวดนวัตกรรมประชาธิปไตยในโครงการประกวดนวัตกรรมประชาธิปไตยเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยเชิงคุณภาพ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจด้านนวัตกรรมประชาธิปไตยในสังคมไทย
นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะกรรมการจัดประกวดนวัตกรรมประชาธิปไตย ปี 2559 ได้จัดโครงการประกวดนวัตกรรมประชาธิปไตยเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยเชิงคุณภาพ ประจำปี 2559 สำหรับเยาวชน บุคลากรทางการศึกษาและผู้นำชุมชนท้องถิ่น ซึ่งรูปแบบโครงการ ประกอบด้วย กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการและกิจกรรมประกวดนวัตกรรมประชาธิปไตย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจด้านนวัตกรรมประชาธิปไตยในสังคมไทย ส่งเสริมการจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์คุณภาพ และประชาธิปไตยที่มีคุณภาพในโรงเรียน สถาบันการศึกษา และชุมชนท้องถิ่น อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนมีส่วนร่วมกับสถาบันนิติบัญญัติ ในการสร้างความสามัคคีสมานฉันท์ในสังคมต่อไป
ผู้สนใจสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ www.parliament.go.th/innovation ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาผู้แทนราษฏร สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขที่ 2 ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 โทรศัพท์ 02 – 2442515 – 16 หรือ 02 – 2442522 และติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.parliament.go.th/innovation
ปริญญา/ข่าว
***************
ปปช. ขอเชิญประชาชนตรวจสอบ โครงการตามมาตราการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลของจังหวัดชลบุรี (ตำบลละ 5 ล้านบาท)
นายวัฒนชัย สัมมี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรและคนยากจนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยชะลอตัวอย่างต่อเนื่องและราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ จังหวัดชลบุรี ได้สำรวจปัญหาและความต้องการของประชาชนและจัดทำแผนงานโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายในระดับตำบล ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร ผู้ยากจนและผู้ใช้แรงงาน จนกระทั่งต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 เห็นชอบมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลและอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการมาตรการดังกล่าว โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการจึงเป็นที่มาของมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการจ้างงาน การบริโภคและการลงทุนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากการจัดสรรงบประมาณลงไปในระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อสนับสนุนและหาแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดการทุจริตในโครงการมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลดังกล่าว โดยสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดการทุจริตในโครงการดังกล่าว
สำหรับจังหวัดชลบุรี ได้รับอนุมัติโครงการและได้รับจัดสรรงบประมาณ ทั้งสิ้น จำนวน 1,030 โครงการ งบประมาณจำนวน 435,560,177 บาท โดยแยกเป็นแต่ละอำเภอดังนี้ อำเภอเมืองชลบุรี จำนวน 198 โครงการ ใช้งบประมาณ 87,450,963 บาท อำเภอพนัสนิคม จำนวน 329 โครงการ ใช้งบประมาณ 98,643,490 บาท อำเภอเกาะจันทร์ จำนวน 36 โครงการ ใช้งบประมาณ 9,618,380 บาท อำเภอเกาะสีชัง จำนวน 14 โครงการ ใช้งบประมาณ 4,261,980 บาท อำเภอบ่อทอง จำนวน 63 โครงการ ใช้งบประมาณ 29,500,200 บาท อำเภอบางละมุง จำนวน 25 โครงการ ใช้งบประมาณ 37,902,110 บาท อำเภอบ้านบึง จำนวน 74 โครงการ ใช้งบประมาณ 39,806,413 บาท อำเภอสัตหีบ จำนวน 61 โครงการ ใช้งบประมาณ 22,660,540 บาท อำเภอหนองใหญ่ จำนวน 42 โครงการ ใช้งบประมาณ 24,532,700 บาท อำเภอพานทอง จำนวน 117 โครงการ ใช้งบประมาณ 43,025,101 บาท และอำเภอศรีราชา จำนวน 71 โครงการ ใช้งบประมาณ 38,158,300 บาท
สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเชิญประชาชนในแต่พื้นที่ช่วยกันติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณตามแผนงานโครงการที่ไดรับอนุมัติดำเนินการตามาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท ของแต่ละพื้นที่ หากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการใดพื้นที่ตำบลใด ขอให้แจ้งข้อมูลเบาะแสการทุจริตไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี เลขที่ 29 ถนนบางแสนสาย 2 ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี 20130 โทรศัพท์หมายเลข 038 – 344280 ต่อ 105 หรือ 110 หรือ 114 โทรสาร 038 – 384280 ต่อ 101 หรือ 208
ปริญญา/ข่าว
*****************
อบจ จัดโครงการองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีร่วมใจ ห่วงใยประชาชน
นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ได้จัดโครงการองค์การบริหารส่วนจังหวัดร่วมใจ ห่วงใยประชาชน ในวันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2559 ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา ภูมิพลมหาราชา ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2559 ณ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนชลราษฎรอำรุง ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เวลา 09.00น. เป็นต้นไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา และข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและพบปะพูดคุยกับผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นรวมทั้งประชาชนในแต่ละพื้นที่ เพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และนำมาแก้ไขปัญหาต่อไป
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการนำมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบความเดือนร้อน มอบไม้เท้าค้ำยันให้แก่ผู้สูงอายุที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหว มอบแว่นตาให้แก่ผู้มีปัญหาทางสายตา มอบปุ๋ยอินทรีย์ พันธูปลาน้ำจืด พันธ์พืชผักสวนครัวให้แก่ประชาชน และจัดการประชุมกันระหว่างคณะผู้บริหารและสมาชิกสาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กับคณะผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำท้องที่ในเขตอำเภอเมืองอีกด้วย
ปริญญา/ข่าว
*****************
สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) จัดกิจกรรมวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
นายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2 เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ 14 มกราคมของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2 (ศรีราชา) ได้กำหนดจัดกิจกรรมวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ในวันที่ 15 มกราคม 2559 ระหว่างเวลา 08.30 – 15.00 น. ณ โรงเรียนสวนป่าเขาชะอางค์ ตำบลพลวงทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เป็นการปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนทุกหมู่เหล่า มีความหวงแหนและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างประหยัด เพื่อที่จะให้มีป่าไม้เพิ่มขึ้นในอนาคต และเพื่อให้เยาวชนและประชาชนทุกหมู่เหล่า ตระหนักถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นผลจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า บุกรุก แผ้วถาง และยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าอีกด้วย
ขอเชิญนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชนของชาติ ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และพ่อค้าประชาชนร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว
ปริญญา/ข่าว